Oh my dogs

Thursday, March 10, 2005


dave1

kirasana

dave

tree

kradang-nga

montha

Sunday, March 06, 2005

ไปส่งแม่ณูที่จันทบุรี

ตั้งใจว่าจะไปกันแต่เช้าเพราะเดินทางหลาย ชม.(ประมาณ 350 กม.)ร่วม 4 ชั่วโมงได้ ก็สายจนได้ออกจากบ้านเกือบ 10 โมง แวะกินข้าว S&P ที่บางนา คราวนี้ยกพลขนไปหมดทั้งบ้านทั้งคนทั้งหมาร่วม 7 ชีวิต คิดดูว่ารถเก๋งคันติ๊ดเดียวจะอัดไปท่าไหน เริ่มด้วยชายเล็ก น้องเบ๊บได้ที่นั่ง king size เลยหลับตลอดทางเลย

(นี่หรอที่ king size ของแม่ น่าจะให้พ่อมาลองนั่งบ้างนะ)

ส่วนพี่หญิงใหญ่นี่ปกติจะไม่นั่งข้างหลังนะจะไม่ยอมเลยร้องจนรถพังก็ไม่หยุด แต่วันนี้ยอมได้เพราะแม่นั่งด้วย ก็เลยนอนหนุนตักพี่แจ๋วแหวว หลังตามกันไป


แล้วมาที่ชายใหญ่ พี่บุ๋น คับไม่ว่าจะไปไหนต้องนอนตรงนี้ ท่านี้ แล้วก็ต้องซุกตรงนี้ของพ่อตลอดทางเลย ถ้าจะเค้านั่งข้างหลังล่ะก็เค้าก็จะกระโดดมานอนตรงนี้ ท่านี้ และที่นี้ ทุกครั้งเลย

(หอมมั้ยบุ๋น)

ออกจากที่ไร่ประมาณ 4 โมงกว่า ๆ แวะซื้อต้นไม้ที่บ้านพังพอนใกล้ ๆ กับที่ไร่ ได้ต้นมณฑา สูงประมาณ 2 ม.ดอกสีเหลืองคล้ายดอกบัว กลิ่นเปรี้ยวฉุนๆ

(มณฑา)


montha2

Saturday, March 05, 2005

เที่ยว Safari World

Saturday March 5, 2005 : Safari World
แม่ณูมาจาก ตจว.(จันทบุรี)พาแจ๋วแหววมาด้วยมาแค่ 3 วันไปรับมาเมื่อวันศุกร์ และจะกลับวันอาทิตย์ เลยมีเวลาแค่วันเสาร์วันเดียวที่จะพาไปเที่ยว มาถึงกรุงเทพฯ ก็เย็นแล้วเลยพาไปกิน MK ที่ Carrefour วันเสาร์ก็พาไปบ้านพี่หนิงพี่หน่อง เพราะพี่หน่องบอกว่าจะไปเที่ยวด้วยเลยรวมพลที่บ้านนั้นไป Safari World กันเพราะใกล้ที่สุดนั่นเอง มีแม่ณู แจ๋วแหวว ป้าแบ๋ว พี่หน่อง พี่นัท แพง บี๊ แล้วก็เรา ทั้งหมด 8 คน ไปถึงประมาณ 9:30 น. ต้องไปเช้า ๆ เพราะจะได้ดูโชว์ได้เยอะ ๆ ซื้อตั๋วในราคาที่แพงเป็นปกติอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ 390.-/คน เด็ก 290.-/คน ดูตารางโชว์แล้วรอบแรก 10 โมงกว่า ๆ เลยเข้าไปดูใน Safari Park ก่อน เพราะมีโชว์ให้อาหารสัตว์ก่อนก็เลยขับรถเข้าไปดูในนั้นก่อน ส่วนของ Park นี้คือให้ขับรถเข้าไปชมเป็นสวนสัตว์เปิด สัตว์จะไม่ได้อยู่ในกรงเลย มีแต่คนที่จะต้องอยู่ในกรง และห้ามลงจากรถ และห้ามให้อาหารสัตว์ บางบริเวณที่เป็นสัตว์ดุ ๆ เค้าจะมีประตูเปิดปิดอัตโนมัติ 2 ชั้น และห้ามเปิดหน้าต่างเด็ดขาด ส่วนแรกที่เข้าไปก็จะมีพวกยีราฟ นก กระทิง กวาง แรด ฯลฯ


ฮิปโป ตัวนี้เหมือนรูปปั้นมาก ๆ เลย

ส่วนต่อไปที่เข้าไปก็เป็นโซนสัตว์ดุ มีโชว์ให้อาหารพอดี พวกเสือเนี่ยพอเห็นรถให้อาหารขับเข้ามาบริเวณที่เค้าอยู่กันมันจะพากันวิ่งมาที่รถแล้วกระโดดขึ้นรถทันที อาหารก็จะเป็นไก่ดิบ คนที่ให้เป็นผู้หญิงซะด้วย กล้าจัง แล้วดูพวกเสือจะคุ้นเคยกับเธอพอสมควรนะนั่งกันเต็มรถเลย อึ๋ยส์ เห็นแล้วขนลุก



พอจะออกจากส่วน Park ก็มีมาส่งด้วย 1 ตัว ก็นกยูงงัย รำแพนโชว์ส่งท้ายเลย

หลังจากนั้นเราก็เข้าไปดูโชว์ใน Marine Park มีโชว์ไม่กี่อย่างเลย อย่างโชว์อุรังอุตังก็งด เนื่องจากเค้ามีปัญหาเกี่ยวกับสัตว์ไม่ได้รับอนุญาติเลยโดนยึดไปอะไรทำนองเนี้ย (ป้าเหมียวบอกมา)มีเหลือแค่ 5 โชว์ โชว์ของคนก็ 2 ละ มี Spy War Show กับ Stunt Show ของสัตว์ก็มี สิงโตทะเล, โลมากับวาฬขาว, นก



Sea Lion Show สิงห์โตทะเลจะใช้จมูกและปากเลี้ยงสิ่งของไว้ได้นานมาก อย่างเลี้ยงลูกบอล หรือตุ๊กตาแล้วว่ายน้ำ มีหางที่แข็งแรงสามารถยืนได้ พอยืนแล้วสูงเท่า ๆ กับคนเลย หัดให้มันทำตามคนได้ด้วย


จากนั้นก็มาดู Whale เป็นวาฬขาวหน้าตาน่ารักยิ้มด้วยนะนั่นน่ะ แล้วก็มี Dolphin Show เป็นโลมาปากขวดนี่ก็น่ารักในบรรดาโชว์ทั้งหมดเนี่ยชอบโลมาที่สุดเลย


สุดท้ายก็เป็นโชว์นกมีการโชว์เก็บขยะ บวกเลข ร้องเพลง คาบเงิน ชูตบาส ฯลฯ ก็เก่งอีกนั่นล่ะยอมรับเลยคนฝึกเก่งจริง แต่คิดว่าคนฝึกคนจะเป็นคนเดียวกับทุกสวนสัตว์มั้ง เพราะเห็นโชว์นกทุกที่ โชว์แบบนี้เหมือนกันหมด ไม่คนฝึกคนเดียวกัน ก็คงเป็นนกตัวเดียวกันมั้ง ขึ้นอยู่กับว่าที่ไหนจะฝึกได้เนียนกว่าเท่านั้น บางที่สั่งให้นกไปแต่สั่งให้กลับไม่ได้ ก็ตลกดีไปอีกแบบ



บริเวณที่เป็นภัตตาคารจะมีบึงเล็ก ๆ แล้วจะมีห่านทั้งสีดำ และขา มีเรือถีบ และก็มีให้อาหารสัตว์ด้วย








ถ่ายรูปคู่กับลูกเสือกินนม (โพสต์ท่าเก่งมากเลยไม่มีนมในขวดสักหยด ยังทำท่าดูดนมอีก) 60.-

ดูอะไรต่อมิอะไรจนเป็นที่พออกพอใจของแจ๋วแหววแล้วก็กลับ ขาออกเห็นมีป้ายบอกว่าสมัครสมาชิกเที่ยวฟรีตลอดปี ผู้ใหญ่ 370.-/คน เด็ก 270.-/คน ถูกกว่าค่าเข้าที่จ่ายไปเมื่อเช้าอีก เจ็บจ๊าย เจ็บใจ! แล้วก็ไปส่งพี่หน่องที่บ้าน แล้วก็ไปกินมื้อค่ำ Bar-B-Q กันที่ Fashion Island ฝากลูก ๆ ไว้กับป้าเหมียวต้องรีบกลับไปดู แล้วรีบนอนเพราะพรุ่งนี้ต้องไปส่งแม่ณูกลับจันทร์แต่เช้า


Wednesday, March 02, 2005

ได้เวลานอนของพี่บุช กับเดินชมสวน นั่งดูปลา


(ห้องนอนของผมฮับ เป็นงัยคับ แม่ลำเอียงมั้ย ข้างหน้าเป็นจานข้าวของผมเห็นใหญ่ ๆ ยังงั้นก็เถอะแม่ให้แค่ครึ่งเดียวเอง)
เวลานอนของพี่บุชคือตอนเช้าที่ชาวบ้านเค้าตื่นกันหมดแล้วนี่เค้ากำลังจะหลับ ก็เลยขอซักภาพ ตอนสาย ๆ ซักประมาณ 10 โมงค่อยกินข้าว กินเสร็จเค้าก็จะนอนต่อ เหมือนกับหมาแดร็กคิวล่า สู้แสงไม่ได้ เค้าจะนอนใต้แคร่ เพราะกลัวจะร้อน จริง ๆ แล้วข้างบ้านฝั่งนี้จะร้อนตั้งแต่เที่ยงถึงประมาณบ่าย 2 ตื่นอีกทีประมาณ 4-5 โมงเย็นกินข้าวเย็นแล้วก็จะเริ่มอาการบ้าระห่ำทำลายต้นไม้ของแม่อีกเหมือนเดิม

(ดูกันจะ ๆ เวลาผมนอนแล้วเอาแม่มาฉุดก็ไม่ตื่น กำลังฝันถึงไก่ย่างอยู่มั้ง)
หลังจากที่พี่บุชหลับบ้านก็กลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้ง

ที่เห็นตรงหน้าเป็นรูปต้นจำปี เมื่อเดือนที่แล้วออกดอกเต็มต้นเลยเก็บทุกวันจนขี้เกียจเก็บปล่อยให้เหี่ยวคาต้นเลย มาช่วงนี้ชักซาลงแล้วแต่ก็มีบานทุกวัน ปลูกมาปีเต็ม ๆ นึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เห็นดอกซะแล้ว ถัดไปเป็นต้นพญาสัตบรรณ แรก ๆ มาไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลยจะได้เห็นความแตกต่าง เราเรียกเค้าว่า "พญาไร้ใบ" น่ะ มีใบมาแค่ 4 ใบเอง ตอนนี้เต็มต้นเลย แต่สะเปะสะปะมากเลยไม่เป็นชั้นเป็นระเบียบเลย ส่วนอีกต้นนึงสุดท้ายนั่น เรียกว่าต้น "หูกระจง" สวยมากเลยต้นนี้ ที่เราปลูกต้นไม้ใหญ่ ๆ ข้างบ้านฝั่งนี้เพราะว่าตอนบ่ายแดดจะมาเราจะได้บังแดดหน้าบ้านจะได้ไม่ร้อน


แอบมีบ่อปลาเล็ก ๆ ด้วยนะ ข้างล่างนั่นจะมีปลาเทโพ 2 ตัว ยาวประมาณคืบเศษ ๆ แล้วก็เมื่อวันอาทิตย์ไปซื้อ Arowana มังกรเงินมายาวประมาณ 3-4 นิ้ว ตัวนึงตั้ง 380 บาท กับปลาโดเรม่อน (ไม่รู้ชื่อเป็นทางการเค้าว่าชื่ออะไร แต่หน้าตามันเหมือน Doraeman เลยเรียกซะยังงั้น ตัวนึงยาวพอ ๆ กับ Arowana แต่ราคาถูกกว่าตั้งเยอะ 100 บาทเองเห็นว่าราคาเค้าตกลงเยอะตัวสีดำทางขวานั่นแหล่ะ


สภาพหน้าบ้านค่อนข้างเยินนิด ๆ อยากจะโทษหมาล้วน ๆ ก็ไม่ได้ ฝีมือเราเองด้วยล่ะนะไปดูปลาหลังบ้านดีกว่าที่บ้านนี้มีบ่อบัวนอกบ้าน บ่อปลาหน้าบ้าน(ในตัวบ้าน) และบ่อปลาหลังบ้าน

นี่เป็นสภาพซุ้มหลังบ้านปลูกต้นไม้เลื้อยไว้รอบเสา 4 ต้นมีประดู่, เล็บมือนาง, ใบระบาด, ชมดาว แต่ตอนนี้เหลือแค่ 2 เสาเลย ชมดาวไปสู่ที่ชอบ ๆ ก่อนเพื่อนเลย ตามมาคือใบระบาดอันนี้เราประหารมันเองเนื่องจากมันระบาดจริง ๆ พันต้นไผ่ต้นนู้นต้นนี้แล้วโตไวมาก ตัดไม่ทันเลยเลยตัดสินใจประหารมันทิ้งซะ ด้านนอกเราก็ปลูกมะนาวไว้ต้นนึงยังไม่มีลูกให้กินเลย ทางขวาก็เป็นลั่นทมดอกสีขาว ได้เห็นดอกแล้วตั้งครั้งนึง

เข้าไปดูใกล้ ๆ นั่นเป็นบ่อปลาอีกบ่อที่สร้างไว้มีปลาคราฟประมาณ 4-5 ตัว ปลานิล (ปลาเหยื่อที่รอดตาย) 1 ตัว, ปลาแรดเผือก 3 ตัว แรดเผือกตาแดง 1 ตัว, เต่าญี่ปุ่น 2 ตัว, ปลาเทศบาล 1 ตัว ปลูกต้นไม้ให้ร่มกับปลามีแสงจันทร์บังแดด ต้นซิการ์ แล้วก็ต้นอะไรอีกกอหนึ่งไม่รู้ แล้วก็คลุมแสลนไว้บังแดดบังฝนด้วย เบื่อแล้วเข้าบ้านดีกว่า อ้ะมีรถส้มตำมาจอดอยู่หน้าบ้านป้าเหมียว คาดว่าคุณนายต้องกินส้มตำปูปลาร้าอีกตามเคย โด๊ปแต่เช้าเชียว ก็เลยเอามั่ง แต่ส้มตำถ้าจะไม่ดีเสียเครดิตคนกรุงเอาเป็นน้ำตกกับข้าวเหนียวแล้วกัน แล้วก็ไก่ย่างไร้กระดูกให้เด็ก ๆ อีก 4 ไม้


หมดช่วงเช้าด้วยการกินน้ำตกหมู ข้าวเหนียว เด็ก ๆ ก็นั่งรอจะกินไก่ย่างไร้กระดูกครับ

ครบแก๊งค์เลย แก๊งค์ในบ้าน นำเสนอโดยพี่บีม (พี่หญิงใหญ่ทางขวา) พี่บุ๋น (พี่ชายใหญ่ทางซ้าย) และน้องเบ๊บ ชายเล็กข้างหลัง